CakeBelle

CakeBelle

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554



OLED ( Organic Light Emitting Devices ) ทางบริษัท TDK ได้นำเสนอเทคโนโลยี OLED จอแสดงผลรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติคล้ายฟิล์ม คือมีความโปร่งใสจนสามารถมองเห็นทะลุได้ และจะเปล่งแสงเมื่อได้รับ พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถแสดงภาพในขณะที่จอถูกดัดให้โค้งงอได้อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีจอแสดงผลชนิดนี้ที่เหนือกว่าจอที่ทำจาก แก้วที่แตกร้าวได้ง่าย



     TDK คาดว่าจะเริ่มผลิตฟิล์มแสดงผลภายในหนึ่งปี นั่นหมายความว่า เราอาจจะได้เห็นมือถือที่ใช้จอ OLED ชนิดนี้ก่อนสิ้นปี 2011 ก็ได้ โดยนอกจากจะผลิตจอแสดงผลดังกล่าว เพื่อใช้กับมือถือแล้ว TDK ยังมองว่า ฟิล์มแสดงผลชนิดนี้ยังเหมาะกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สวมใส่ (wearable electronics) อย่างเช่น แว่นตาแสดงผล Augmented Reality ที่สามารถมองเห็นสิ่งที่ตรงหน้า และภาพกราฟิกที่ปรากฎบนฟิล์ม OLED ที่ใช้แทนกระจกแก้ว หรือด้วยความที่มันมีความยืดหยุ่นโค้งงอได้

     ในบูธของ TDK ยังได้มีการนำเสนอสายรัดข้อมือที่มาพร้อมกับฟิล์มแสดงผลชนิดนี้ รวมถึงใน อนาคตสามารถพัฒนาเป็นวิวไฟน์เดอร์ของกล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่ใช้หน้าจอชนิดนถ่ายรูปสำหรับ Cameraphone ได้เลย จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ก็คือ ภาพที่สว่างสดใสจนสามารถมองเห็นภายใต้แสงสว่างในธรรมชาติ และพวกที่ชอบก้ม หน้าดูมือถือเวลาเดินก็จะไม่ตกท่อ เพราะจอใส :สำหรับต้นแบบที่นำมาโชว์จะมีขนาด 2 และ 3.5 นิ้ว แต่จะมีความละเอียดสูงถึง 200 พิกเซลต่อนิ้ว



คงสงสัยกันว่า OLED คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับมันกันดีกว่า...

ทำความรู้จักกับ OLED
     OLED หรือ Organic Light-Emitting Diodes คือ อุปกรณ์ที่ทำด้วยฟิล์มของวัสดุอินทรีย์กึ่งตัวนำ ที่สามารถเปล่งแสงได้เองเมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้า เรียกว่ากระบวนการ Electroluminescence (อิเล็กโทรลูมิเนสเซนซ์) เมื่อนำมาใช้เป็นจอภาพจึงไม่จำเป็นต้องมี Backlight ฉายแสงด้านหลังไปทั่วทั้งจอภาพ อย่างที่ทำกันในจอ LCD หรือ Plasma ซึ่งยังทำให้จุดสีดำใดๆในภาพ ก็จะได้สีที่ดำสนิทมืดมิดจริงๆ เพราะไม่มีแสงสว่างออกมาเลยนั่นเอง ด้วยคุณสมบัติเด่นนี้เองจึงทำให้จอแบบ OLED สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้า และให้ความบางที่มากกว่าจอ LCD ได้.
โครงสร้างและหลักการทำงาน
ขอบคุณภาพจาก Howstuffworks
ขอขอบคุณภาพจาก Howstuffworks
  • 1. กระแสไฟฟ้าจะไหลจาก Cathode ผ่านชั้นสารอินทรีย์ไปยัง Anode โดย Cathode จะให้กระแสelectrons แก่ชั้น Emissive layer ขณะเดียวกัน
  • 2. Anode จะดึง electrons ในชั้น Conductive layer ให้เคลื่อนที่เข้ามา เกิดเป็น electron holes ขึ้น
  • 3. ระหว่างชั้น Emissive และ Conductive layer จะเกิดปฏิกิริยา electron (-) เข้าจับคู่กับ hole (+) ขึ้น ซึ่งกระบวนนี้เอง ที่จะเกิดการคายพลังงานส่วนเกินออกมา นั่นก็คือแสงสว่างที่เราต้องการ
สำหรับการให้สีแก่แสงนั้น จะขึ้นอยู่กับชนิดของโมเลกุลสารอินทรีย์ในชั้น Emissive layer ซึ่งในการผลิตจอ Full-color OLEDs จะใช้สารอินทรีย์ 3 ชนิด เพื่อให้ได้แม่สีของแสงคือน้ำเงิน, แดง และเขียว
ส่วนความเข้มและความสว่างของแสงที่ได้ จะขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่ให้เข้าไป ให้มากแสงก็จะสว่างมาก ซึ่งโดยปกติจะใช้กระแสไฟฟ้าที่ประมาณ 3-10 โวลต์
และด้วยความที่ทำจากฟิล์มสารอินทรีย์ที่บางระดับนาโนเมตรนี้เอง เราจึงสามารถประกอบอุปกรณ์ OLED บนวัสดุที่พับงอได้ เช่น พลาสติกใส เกิดเป็นจอภาพแบบยืดหยุ่น (Flexible Display) ได้ขึ้นมา ซึ่งทำให้ในอนาคตเราอาจได้เห็นจอภาพแบบนี้ อยู่บนเสื้อผ้าของเราก็เป็นได้
 จุดเด่นของ OLED

- สามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง ทำให้ใช้พลังงานน้อยกว่าจอแบบอื่นๆ
- จอมีความบางกว่า เบากว่า และมีความยืดหยุ่นสูงจนสามารถโค้งงอได้- ให้ความสว่างมากกว่า เนื่องจากจอทำจากพลาสติกที่มีความบางมาก การผ่านของแสงจึงดีกว่า- ง่ายต่อการขยายขนาด เพราะทำจากพลาสติก จึงสามารถสร้างให้มีขนาดใหญ่ได้ และปลอดภัย
จุดด้อยของ OLED

- อายุการใช้งานของฟิล์มที่ให้กำเนิดสีน้ำเงิน ยังมีอายุการใช้งานสั้นเพียง 1,000 ชั่วโมง  (แต่สำหรับสีแดง และเขียว มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประมาณ 10,000 ถึง 40,000 ชั่วโมง
- ปัจจุบันขั้นตอนการผลิตยังคงมีราคาสูง เนื่องจากยังไม่สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เชิงปริมาณได้- สารอินทรีย์ที่ใช้ทำ OLED จะเสียหายได้ง่ายเมื่อโดนน้ำหรือออกซิเจน

หรือจะเป็นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวอักษรหรือภาษาบนหน้าคีย์ได้ตามใจ เพราะแต่ละคีย์กดที่มี 114 ปุ่ม ล้วนทำจาก OLEDs ทั้งสิ้น ซึ่งรวมแล้วมีราคาค่าตัวราว 48,800 บาท :)
จะเห็นว่าการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับ OLED กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต่อไปเราอาจได้เห็นอุปกรณ์ธรรมดาในวันนี้ กลับไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ วันหนึ่งเราอาจหยิบหนังสือพิมพ์จอ OLED ส่วนตัวมาอ่านและดูภาพข่าวล่าสุดได้ทันทีทุกเวลา และที่สำคัญยังพับหรือม้วนเก็บลงในกระเป๋าได้เหมือนเดิม หรือเราอาจจะไม่ได้เห็นหลอดไฟตามเพดานกันอีกต่อไป เมื่อทั้งเพดานกลายเป็นแผง OLED ที่ให้แสงสว่างแทน ที่น่าสนใจในบ้านเราคือ อาจได้เห็นพี่วินมอเตอร์ไซต์ ใส่เสื้อจอโฆษณาเคลื่อนที่ก็เป็นได้ !!
แต่ใช่ว่าเทคโนโลยีฟังยากเหล่านี้จะวิจัยกันได้เฉพาะต่างประเทศ เพราะความจริงแล้วในประเทศไทยของเราก็มีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้อยู่หลายแห่งด้วยกัน อย่างทางด้านวิศวกรรมโมเลกุลเพื่อเปลี่ยนสีของแสงที่เปล่งออกมานั้น มีการวิจัยกันที่ศูนย์นาโนศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหิดล  หรือด้านการสังเคราะห์โพลิเมอร์เปล่งแสงเพื่อผลิตเป็นอุปกรณ์ OLED นี้ มีทั้งที่ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) , ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (NANOTEC) , จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ และขอเป็นกำลังใจให้กับนักวิจัยไทยทุกท่านครับ

อ้างอิงจาก : arip , tistrblog

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น