CakeBelle

CakeBelle

วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

How to Youtube downloader

           
       เคยไหม ดูวีดีโอจาก Youtube แต่อยากเก็บเอาไว้ดูที่เครื่องคอม แล้วไม่รู้จะทำยังไง .....

วันนี้ขอเสนอวิธีการดาวน์โหลดวีดีโอที่เราชื่นชอบจาก Youtube จ้า 


          Youtube Downloader : โปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่ใช้โหลดวีดีโอที่เราชื่นชอบจาก Youtube  อย่างแรก เราต้องโหลดโปรแกรมมาใช้กันก่อนนะ Download หรือ โหลดใน opensourse 


วิธีการใช้งาน


๑.เมื่อเราโหลดเสร็จแล้ว เราก็คลิกที่ตัวโปรแกรม 












        


2.ให้เราทำการ copy ลิงค์ที่เราต้องการดาวน์โหลที่ youtube


3.มาใส่ลงในกรอบสี่เหลี่ยม


4.แล้วกดปุ่ม download สีแดง


รอสักพัก....   ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

นอกจากนี้เรา ยังสาสมารถแปลงไฟล์วีดีโอที่เราดาวน์โหลดมา เป็นไฟล์อื่นๆได้อีก

1. โดยการกดไปที่ convert


2. แล้วเลือกไฟล์วีดีโอที่เราต้องการแปลงไฟล์

3. แล้วกดตรง convert video to เลือกว่าเราต้องการแปลงเป็นไฟล์ประเภทไหน

4. แล้วกด convert video


หรือเข้าไปดูวิธีการติดตั้งในนี้




ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย :)


วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554



OLED ( Organic Light Emitting Devices ) ทางบริษัท TDK ได้นำเสนอเทคโนโลยี OLED จอแสดงผลรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติคล้ายฟิล์ม คือมีความโปร่งใสจนสามารถมองเห็นทะลุได้ และจะเปล่งแสงเมื่อได้รับ พลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถแสดงภาพในขณะที่จอถูกดัดให้โค้งงอได้อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีจอแสดงผลชนิดนี้ที่เหนือกว่าจอที่ทำจาก แก้วที่แตกร้าวได้ง่าย



     TDK คาดว่าจะเริ่มผลิตฟิล์มแสดงผลภายในหนึ่งปี นั่นหมายความว่า เราอาจจะได้เห็นมือถือที่ใช้จอ OLED ชนิดนี้ก่อนสิ้นปี 2011 ก็ได้ โดยนอกจากจะผลิตจอแสดงผลดังกล่าว เพื่อใช้กับมือถือแล้ว TDK ยังมองว่า ฟิล์มแสดงผลชนิดนี้ยังเหมาะกับเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สวมใส่ (wearable electronics) อย่างเช่น แว่นตาแสดงผล Augmented Reality ที่สามารถมองเห็นสิ่งที่ตรงหน้า และภาพกราฟิกที่ปรากฎบนฟิล์ม OLED ที่ใช้แทนกระจกแก้ว หรือด้วยความที่มันมีความยืดหยุ่นโค้งงอได้

     ในบูธของ TDK ยังได้มีการนำเสนอสายรัดข้อมือที่มาพร้อมกับฟิล์มแสดงผลชนิดนี้ รวมถึงใน อนาคตสามารถพัฒนาเป็นวิวไฟน์เดอร์ของกล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่ใช้หน้าจอชนิดนถ่ายรูปสำหรับ Cameraphone ได้เลย จุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ก็คือ ภาพที่สว่างสดใสจนสามารถมองเห็นภายใต้แสงสว่างในธรรมชาติ และพวกที่ชอบก้ม หน้าดูมือถือเวลาเดินก็จะไม่ตกท่อ เพราะจอใส :สำหรับต้นแบบที่นำมาโชว์จะมีขนาด 2 และ 3.5 นิ้ว แต่จะมีความละเอียดสูงถึง 200 พิกเซลต่อนิ้ว



คงสงสัยกันว่า OLED คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับมันกันดีกว่า...

ทำความรู้จักกับ OLED
     OLED หรือ Organic Light-Emitting Diodes คือ อุปกรณ์ที่ทำด้วยฟิล์มของวัสดุอินทรีย์กึ่งตัวนำ ที่สามารถเปล่งแสงได้เองเมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้า เรียกว่ากระบวนการ Electroluminescence (อิเล็กโทรลูมิเนสเซนซ์) เมื่อนำมาใช้เป็นจอภาพจึงไม่จำเป็นต้องมี Backlight ฉายแสงด้านหลังไปทั่วทั้งจอภาพ อย่างที่ทำกันในจอ LCD หรือ Plasma ซึ่งยังทำให้จุดสีดำใดๆในภาพ ก็จะได้สีที่ดำสนิทมืดมิดจริงๆ เพราะไม่มีแสงสว่างออกมาเลยนั่นเอง ด้วยคุณสมบัติเด่นนี้เองจึงทำให้จอแบบ OLED สามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้า และให้ความบางที่มากกว่าจอ LCD ได้.
โครงสร้างและหลักการทำงาน
ขอบคุณภาพจาก Howstuffworks
ขอขอบคุณภาพจาก Howstuffworks
  • 1. กระแสไฟฟ้าจะไหลจาก Cathode ผ่านชั้นสารอินทรีย์ไปยัง Anode โดย Cathode จะให้กระแสelectrons แก่ชั้น Emissive layer ขณะเดียวกัน
  • 2. Anode จะดึง electrons ในชั้น Conductive layer ให้เคลื่อนที่เข้ามา เกิดเป็น electron holes ขึ้น
  • 3. ระหว่างชั้น Emissive และ Conductive layer จะเกิดปฏิกิริยา electron (-) เข้าจับคู่กับ hole (+) ขึ้น ซึ่งกระบวนนี้เอง ที่จะเกิดการคายพลังงานส่วนเกินออกมา นั่นก็คือแสงสว่างที่เราต้องการ
สำหรับการให้สีแก่แสงนั้น จะขึ้นอยู่กับชนิดของโมเลกุลสารอินทรีย์ในชั้น Emissive layer ซึ่งในการผลิตจอ Full-color OLEDs จะใช้สารอินทรีย์ 3 ชนิด เพื่อให้ได้แม่สีของแสงคือน้ำเงิน, แดง และเขียว
ส่วนความเข้มและความสว่างของแสงที่ได้ จะขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่ให้เข้าไป ให้มากแสงก็จะสว่างมาก ซึ่งโดยปกติจะใช้กระแสไฟฟ้าที่ประมาณ 3-10 โวลต์
และด้วยความที่ทำจากฟิล์มสารอินทรีย์ที่บางระดับนาโนเมตรนี้เอง เราจึงสามารถประกอบอุปกรณ์ OLED บนวัสดุที่พับงอได้ เช่น พลาสติกใส เกิดเป็นจอภาพแบบยืดหยุ่น (Flexible Display) ได้ขึ้นมา ซึ่งทำให้ในอนาคตเราอาจได้เห็นจอภาพแบบนี้ อยู่บนเสื้อผ้าของเราก็เป็นได้
 จุดเด่นของ OLED

- สามารถเปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง ทำให้ใช้พลังงานน้อยกว่าจอแบบอื่นๆ
- จอมีความบางกว่า เบากว่า และมีความยืดหยุ่นสูงจนสามารถโค้งงอได้- ให้ความสว่างมากกว่า เนื่องจากจอทำจากพลาสติกที่มีความบางมาก การผ่านของแสงจึงดีกว่า- ง่ายต่อการขยายขนาด เพราะทำจากพลาสติก จึงสามารถสร้างให้มีขนาดใหญ่ได้ และปลอดภัย
จุดด้อยของ OLED

- อายุการใช้งานของฟิล์มที่ให้กำเนิดสีน้ำเงิน ยังมีอายุการใช้งานสั้นเพียง 1,000 ชั่วโมง  (แต่สำหรับสีแดง และเขียว มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประมาณ 10,000 ถึง 40,000 ชั่วโมง
- ปัจจุบันขั้นตอนการผลิตยังคงมีราคาสูง เนื่องจากยังไม่สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เชิงปริมาณได้- สารอินทรีย์ที่ใช้ทำ OLED จะเสียหายได้ง่ายเมื่อโดนน้ำหรือออกซิเจน

หรือจะเป็นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวอักษรหรือภาษาบนหน้าคีย์ได้ตามใจ เพราะแต่ละคีย์กดที่มี 114 ปุ่ม ล้วนทำจาก OLEDs ทั้งสิ้น ซึ่งรวมแล้วมีราคาค่าตัวราว 48,800 บาท :)
จะเห็นว่าการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับ OLED กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต่อไปเราอาจได้เห็นอุปกรณ์ธรรมดาในวันนี้ กลับไม่ธรรมดาขึ้นมาได้ วันหนึ่งเราอาจหยิบหนังสือพิมพ์จอ OLED ส่วนตัวมาอ่านและดูภาพข่าวล่าสุดได้ทันทีทุกเวลา และที่สำคัญยังพับหรือม้วนเก็บลงในกระเป๋าได้เหมือนเดิม หรือเราอาจจะไม่ได้เห็นหลอดไฟตามเพดานกันอีกต่อไป เมื่อทั้งเพดานกลายเป็นแผง OLED ที่ให้แสงสว่างแทน ที่น่าสนใจในบ้านเราคือ อาจได้เห็นพี่วินมอเตอร์ไซต์ ใส่เสื้อจอโฆษณาเคลื่อนที่ก็เป็นได้ !!
แต่ใช่ว่าเทคโนโลยีฟังยากเหล่านี้จะวิจัยกันได้เฉพาะต่างประเทศ เพราะความจริงแล้วในประเทศไทยของเราก็มีหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านนี้อยู่หลายแห่งด้วยกัน อย่างทางด้านวิศวกรรมโมเลกุลเพื่อเปลี่ยนสีของแสงที่เปล่งออกมานั้น มีการวิจัยกันที่ศูนย์นาโนศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหิดล  หรือด้านการสังเคราะห์โพลิเมอร์เปล่งแสงเพื่อผลิตเป็นอุปกรณ์ OLED นี้ มีทั้งที่ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) , ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (NANOTEC) , จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ และขอเป็นกำลังใจให้กับนักวิจัยไทยทุกท่านครับ

อ้างอิงจาก : arip , tistrblog

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คำศัพท์ที่น่ารู้จากเพลง



Kelly Clarkson - Breakaway


Grew up in a small town
เติบโตขึ้นมาในเมืองเล็กๆ
  And when the rain would fall down
เมื่อยามที่ฝนพรำ
I just stared out my window
ฉันมอง ออกไปนอกหน้าต่าง
Dreaming of what could be
เฝ้าฝันถึงวันข้างหน้าที่จะมาหา
And if I'd end up happy
และแม้ว่าฉันจะได้พบกับความสุข
I would pray (I would pray)
ฉันขอภาวนา (ได้แต่ภาวนา)
Trying not to reach out
ฉันทุ่มเทสุดกำลังเพื่อที่จะไขว่คว้าหา
But when I'd try to speak out
แต่เมื่อไหร่ที่พยายามจะพูดออกไป
Felt like no one could hear me
กลับรู้สึกเหมือนไม่มีใครต้องการจะรับฟัง
Wanted to belong here
อยากเป็นส่วนหนึ่งของที่ที่ฉันเติบโต
But something felt so wrong here
แต่ทุกสิ่งดูจะผิดไปเสียหมดสำหรับฉัน
So I pray (I would pray)
ฉันจึงได้แต่ภาวนา (ได้แต่ภาวนา)
I could breakaway
ว่าฉันจะฝ่ามันออกไปได้สักวัน
[Chorus:]
I'll spread my wings and I'll learn how to fly
ฉันจะกางปีกกว้าง เรียนรู้ที่จะโผบิน
I'll do what it takes til' I touch the sky
และจะทำทุกอย่าง เพื่อที่จะไปให้ถึงท้องฟ้า
I'll make a wish
ฉันจะอธิษฐาน
Take a chance
สร้างโอกาส
Make a change
เปลี่ยนแปลงตัวเอง
And breakaway
และจะฝ่าไปให้ได้
Out of the darkness and into the sun
ก้าวออกจากความมืด ไปสู่แสงอาทิตย์
But I won't forget all the ones that I loved
แต่จะไม่มีวันลืมบุคคลที่ฉันรัก
I'll take a risk
ฉันจะยอมเสี่ยงTake a chance
สร้างโอกาส
Make a change
เปลี่ยนแปลงตัวเอง
And breakaway
และก้าวผ่านมันออกไป
Wanna feel the warm breeze
อยากรู้สึกถึงสายลมที่อบอุ่น
Sleep under a palm tree
นอนหลับภายใต้ต้นปาล์ม
Feel the rush of the ocean
รู้สึกถึงความเชี่ยวกรากของท้องทะเล
Get onboard a fast train
ย่างก้าวขึ้นไปบนรถไฟที่แล่นเร็ว
Travel on a jet plane, far away (I will)
ขึ้นเครื่องบินไปไกลแสนไกล
And breakaway
และก้าวผ่านมันออกไป
[Chorus]
Buildings with a hundred floors
ตึกสูงเสียดฟ้าที่มีนับร้อยชั้น
Swinging around revolving doors
หมุนวนรอบๆ ประตูหมุน
Maybe I don't know where they'll take me
ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปถึง ณ ที่แห่งไหน
but Gotta keep moving on, moving on
แต่เท่าที่รู้คือ ต้องก้าวต่อไป ก้าวต่อไป
Fly away, breakaway
บินออกไป ฝ่าฟันมันไป


I'll spread my wings And I'll learn how to fly
ฉันจะกางปีกกว้าง เรียนรู้ที่จะโผบิน
Though it's not easy to tell you goodbye
อย่างไรก็ตาม มันไม่ง่ายที่จะกล่าวลา
I gotta take a risk
ฉันจำต้องเสี่ยง
Take a chance
สร้างโอกาส
Make a change
เปลี่ยนแปลงตัวเอง
And breakaway
และก้าวผ่านมันออกไป
Out of the darkness and into the sun
ก้าวออกจากความมืด ไปสู่แสงอาทิตย์
But I won't forget the place I come from
แต่จะไม่มีวันลืมที่ที่ฉันจากมา
I gotta take a risk
ฉันจำต้องเสี่ยง
Take a chance
สร้างโอกาส
Make a change
เปลี่ยนแปลงตัวเอง
And breakaway, breakaway, breakaway
และก้าวผ่านมันออกไป , ฝ่ามันออกไป , ฝ่ามันออกไป


คำศัพท์ที่ได้จากเพลง
breakaway = ก้าวผ่านมันไป
Grew up = เติบโตขึ้นมา
speak out = พูดออกไป
breeze = อบอุ่น




Credit : dek-d

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ดารา นักร้อง ที่ชื่นชอบ

Taylor lautner 

                       เหตุผล เขามีความเป็นตัวของตัวเองดี เล่นเขาถึงบทบาท บางครั้งที่ดู เราก็จะอินไปด้วย และที่สำคัญ     เขาหล่อมาก*  

ยงฮวา

 เหตุผล ร้องเพลงเพราะ หน้าตาดี มีความสามารถ*


ชื่อ : Jung Yonghwa (정용화) จองยงฮวา ( ร้องนำ;' CN.Blue )

ชื่อญี่ปุ่น : ヨンファ
วันเกิด : 22/06/1989
ส่วนสูง : 180
กรุ๊ปเลือด : A


      


จงฮยอน

 เหตุผล จงฮยอนเป็นศิลปินที่มีความสามารถคนหนึ่ง ร้องเพลงเพราะ และเต้นเท่ห์มาก


ชื่อในวงการ : จงฮยอน/종현

ชื่อจริง : คิมจงฮยอน/ 김종현/ (鐘鉉)
วันเดือนปีเกิด : อาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2533
บ้านเกิด : โซล แต่อาศัยอยู่แถวทงแดมุน
สุง : 173.0cm
ฉายา(เกาหลี) : บริงบริง,คิมบริง,จงบริง,จง(จ๊ง)
หมู่เลือด : เอบี(AB) 


         

ลีโอนาโด ดิคาปริโอ


เหตุผล  เป็นนักแสดงที่มีความสามารถมากๆ แสดงได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นคนดี หรือเลว 
เล่นเป็นธรรมชาติ การแสดงแต่ละครั้ง เขาจะไม่เหมือนกันทุกเรื่อง คือเวลาแสดงเป็นตัวละครตัวไหน ก็จะแสดงเป็นตัวละครตัวนั้นเลย จะไม่แสดงความเป็นตัวเอง ออกมามากจนเกินไป 



ชื่อ  Leonardo Dicaprio
เกิด 11 พฤศจิกายน ค.ศ.1974
อาชีพ นักแสดง
ปีที่แสดง 1989-ปัจจุบัน

                       

จัสติน บีเบอร์



เหตุผล  เป็นนักร้องที่อายุน้อย (เป็นน้องเราแค่ปีเดียวเอง) และมีความสามารถ ทั้งร้อง ทั้งเต้น
จัสติน มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ฟังครั้งเดียวก็รู้ว่าใครร้อง

ประวัติ

ชื่อ Justin Drew Bieber
 เกิดวันที่ 1 มีนาคม 1994 
แหล่งกำเนิด สตาฟฟอร์ด ออนตาริโอ ประเทศแคนนาดา
แนวเพลง  ป๊อป, R&B, แดนซ์
อาชีพ  นักร้อง
ค่ายเพลง Island RBMG


หนังที่ชื่นชอบบบบ:)

  
AVATAR


     ชอบเพราะ ชอบเนื้อเรื่อง เนื้อหาน่าประทับใจ สะท้อนถึงสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน เช่น การทำลายธรรมชาติ เพราะขนาดโลกโดนทำลายไม่พอ ยังไปทำลายโลกชาวบ้านเขาอีก เป็นต้น อย่างที่สอง คือ ชอบกราฟฟิก สี ภาพ และจินตนาการของผู้สร้าง การลงทุนคุ้มค่ากับการเสียเงินดูหนัง  ภาพ 3 มิติทำได้สุดยอดดมาก




Twilight


      ชอบเพราะ ชอบนักแสดงของเรื่อง และก็บทภาพยนตร์ที่ทำมาได้น่าติดตาม ทำให้ไม่อยากพลาดแม้แต่ตอนเดียว ดูกี่รอบๆก็ไม่เบื่อเลย




INCEPTION*


     ชอบเพราะ เป็นหนังที่ดูทุกฉากจริงๆ เพราะถ้าพลาดไปแม้แต่ฉากเดียวจะดูไม่รู้เรื่อง หนังทำออกมาได้อย่างสุดยอด เพราะ การจินตนาการของผู้กำกับที่คิดแบบไม่เหมือนใคร อีกอย่างยังไม่มีใครทำหนังแนวนี้ออกมา ประกอบกับเนื้อเรื่องสะท้อนปัญหาต่างๆได้อย่างลึกซึ้ง โดยนำเสนอออกมาทางอ้อมผ่านบท และตัวละคร หนังดูมีความเป็นธรรมชาติของตัวเอง และซับซ้อน  หนังดูแล้วปวดหัวดี ก็เลยชอบ

STAR TREK


     ชอบเพราะ  เป็นหนังที่เกี่ยวกับยานอวกาศ และมีตัวละครต่างๆเข้าไปทำภารกิจในยานลำนั้น เรื่องราวแต่งได้อย่างสนุกสนาน มีความเป็นธรรมชาติ ชอบกราฟฟิก และเทคโนโลยีของยานมากๆ เนื้อเรื่องมีการย้อนอดีตของตัวละครตัวหนึ่ง ซึ่งเขาอยู่ในโลกอนาคต และพอร์ตของเรื่องจบได้อย่างประทับใจมากๆ

Season Change


     ชอบเพราะ เป็นหนังแนวรัก ใสๆ ของวัยรุ่นที่แอบชอบคนๆหนึ่ง ถึงขนาดยอมย้ายโรงเรียนไปอยู่กับคนที่ตัวเองชอบ เมื่อย้ายโรงเรียนก็ได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ได้เจอกับมิตรภาพ ชอบที่เป็นหนังเกี่ยวกับดนตรี เพลงประกอบหนังเพราะมากๆ


UP

ขอเพิ่มอีกเรื่อง หนังเรื่องนี้ประทับใจทุกอย่าง*





about me:)

ประวัติ

ชื่อ ปรีณาภา ปัญญาพวก
ชื่อเล่น เบล์ล
เกิด 29061993
ภูมิลำเนา  กรุงเทพฯ
กำลังศึกษาอยู่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขา ชีวการแพทย์  มศว
ติดต่อ
e-mail  Cake.perrr@live.com     
facebook   Belle cake
twitter  bevzx
มีพี่น้อง 2 คน เป็นน้องคนเล็ก
ปัจจุบันอาศัยอยู่กับ พ่อ แม่
นิสัย  พูดน้อย ร่าเริง ชอบยิ้ม  เบื่อง่าย ขี้เกียจ กวน ฟอร์มจัด เต็มที่กับชีวิต ง่วงบ่อย:)
การศึกษา  อนุบาล-ประถม   โรงเรียนสมถวิล
                 มัธยม   สตรีวิทยา 2
                 ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรต  
วิชาเรียนที่ชอบ    ฟิสิกส์   ชีววิทยา   คอม-graphic
วิชาเรียนที่ไม่ชอบ  ภาษาอังกฤษ   พละ   เลข
สิ่งที่ตนเองสนใจ   สนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และจักรวาลวิทยา
                            สื่อทางด้านจิตวิทยา บันเทิง gosip(สนใจเรื่องของคนอื่น ๕๕)
แนวเพลง   pop , jazz , classic , disco
แนวหนังสือ   จิตวิทยา ,ดาราศาสตร์ ,ทฤษฏีทางฟิสิกส์ และจักรวาล , gossip , นวนิยายรัก ฯลฯ




สิ่งที่ตนเองชอบมากที่สุด     1.หนังสือด้านจักรวาลวิทยา

                                2.กล้องถ่ายรูปทุกชนิด (canon , Polaroid , lomo)
                                3.ดนตรี โดยเฉพาะ กีตาร์( แต่เล่นไม่เป็น เล่นเป็นแต่ เปียโน)                   
                                4.ดูหนัง ฟังเพลง shopping*สามารถไปได้ทุกที่ที่มีของขาย 
                                5.Cake กับ chocolate


สิ่งที่ตนเองไม่ชอบมากที่สุด   1.สัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด 
                                 2.เรื่องของ วิณญาณ  
                                 3.สถานที่ที่น่ากลัว วังเวง
                                 4.ความสกปรก สกมก
                                 5.คนไม่จริงใจ

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บุคคลที่ชอบ ที่ไม่ใช่สายวิชาการ




นิ้วกลม


           เหตุผลที่ประทับใจ เพราะ เคยเจอพี่เขาที่งานสัปดาห์หนังสือ ณ ซุ่ม a day มองไกลๆเห็นเขาน่ารักดี และก็ได้ยินเขาประกาศว่า   ”นิ้วกลมมานะ ขอลายเซ็นได้….”  นึกในใจ ‘เป็นนักเขียนหรอ เจ๋งอ่ะ’ พอหลังจากนั้นก็ลองอ่านหนังสือที่เขาเขียน ยืมจากเพื่อนบ้าง ประทับใจหนังสือเขาอยู่เล่มหนึ่ง คือ สิ่งมหัศจรรย์ธรรมดา


ประวัติ


ชื่อ   สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์
ชื่อเล่น  เอ๋
นามปากกา
  
นิ้วกลม*



เกิด    15 ตุลาคม พ.ศ. 2521   โรงพยาบาลหัวเฉียว



อาชีพ    นักเขียน ครีเอทีฟโฆษณา

ชื่อนิ้วกลม เริ่มจากตอนที่เขียนเริ่มใช้อินเทอร์เน็ต ในเว็บบอร์ดคณะ ที่เขามักชอบเข้าไปตั้งกระทู้เห็นคนอื่นมีนามจอ (นามปากกาที่ใช้ในจอคอมพิวเตอร์) อย่าง “ตัวกลม” จึงเริ่มมองดูนิ้วตัวเอง แล้วตั้งนามจอว่า "นิ้วกลม" และจึงใช้นามปากกานี้มาอย่างต่อเนื่อง
นิ้วกลมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์จอห์น จากนั้นศึกษาที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม ในช่วงเรียนปี 5 เขากับเพื่อนอีก 7 คน ใช้ชื่อว่า “dim” ทำหนังสือทำมือไปเสนอ กระทั่งได้เขียนคอลัมน์ E=iq2 และงานเขียนต่าง ๆ ที่เป็นลักษณะของสนามทดลองสมมติฐาน เช่น การเขียนกลับหลัง การเขียนด้วยตัวพยัญชนะและรูปแบบที่ไม่คุ้นชิน หลังจากศึกษาจบเข้าฝึกงานที่ลีโอเบอร์เนตต์ บริษัททางด้านโฆษณา เข้าเรียนเพิ่มเติมการผลิตสื่อโฆษณาของสมาคมผู้กำกับศิลป์บางกอก (B.A.D. Bangkok Art Directors) ผลงานของเขาได้รับรางวัลชนะเลิศในหมู่นักเรียน B.A.D. โดยในการแข่งขันออกแบบโฆษณาสิ่งพิมพ์เพื่อรณรงค์ให้ประเทศไทยปลอดจากคอรัปชั่น โดยเขาประกวดโดยการส่งงานที่เป็นกุญแจรถบีเอ็มดับเบิลยูกับกระดาษพับที่มีข้อความว่า “สวัสดีคณะกรรมการ Junior B.A.D. Awards ทุกท่านครับ เห็นว่าพวกท่านทำงานกันหนัก อยากให้พวกท่านได้นั่งรถสบายๆ จึงส่งรถคันนี้มาเป็นของกำนัล ยังไงตอนให้คะแนนก็ช่วยพิจารณางานชิ้นนี้ของผมเป็นพิเศษหน่อยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ…ประเทศไทยในฝัน? ไม่มีคอรัปชั่น คำตอบอยู่ที่คุณ” จากนั้นเริ่มงานใหม่ที่ JWT มีผลงานสร้างสรรค์โฆษณาอย่างเช่น เบียร์เชียร์ ช็อกโกแลตคิดแคต แว่นท็อปเจริญ ฯลฯ เขายังทำของผลิตภัณฑ์เครื่องกีฬาระดับโลกอย่างอาดิดาส ที่ประเทศจีน ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่ปักกิ่ง ด้านผลงานคอลัมนิสต์ เขียนให้กับนิตยสารอะเดย์ และหลังจากนั้นเริ่มมีตีพิมพ์รวมเล่ม โดยเฉพาะสารคดีท่องเที่ยวอย่าง โตเกียวไม่มีขา (2547) กัมพูชาพริบตาเดียว (2548) เนปาลประมาณสะดือ (2549) สมองไหวในฮ่องกง (2550) และ นั่งรถไฟไปตู้เย็น (2551) และยังมีเขียนนวนิยายเรื่อง นวนิยายมีมือ (2550) และรวมบทความชื่อ อิฐ (2548) (2550) และ เพลงรักประกอบชีวิต (2551) เขายังได้เขียนเพลงร่วมกับ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ในเพลง "ทฤษฎีสีชมพู"
ผลงานเขียน
  • โตเกียวไม่มีขา (2547)
  • กัมพูชาพริบตาเดียว (2548)
  • เนปาลประมาณสะดือ (2549)
  • สมองไหวในฮ่องกง (2550)
  • นั่งรถไฟไปตู้เย็น (2551)
  • อาจารย์ในร้านคุกกี้ (2552)
  • ปอกกล้วยในมหาสมุทร (2552)
  • ฝนกล้วยให้เป็นเข็ม (2553)
  • บุกคนสำคัญ (2553)
  • สิ่งที่ค้นพบระหว่างนั่งเฉยเฉย (2553)
  • สิ่งมหัศจรรย์ธรรมดา (2553)
ติดตามนิ้วกลมได้จาก